เพราะการกินเจถือเป็นการทำบุญครั้งยิ่งใหญ่ให้กับตนเอง ซึ่งในปี 2566
ก็ถือว่าเป็นอีกครั้งที่ควรให้ความสำคัญ และหากคุณเป็นคนหนึ่งที่สนใจกินเจ 2566 ครั้งแรก
หรือที่ผ่านมาคิดว่ายังไม่เคร่งครัดพอ อย่ารอช้าที่จะมาร่วมศึกษาข้อมูลไปพร้อมกัน แล้วการกินเจในครั้งถัดไปนอกจากได้บุญกับตนเองแล้วชีวิตยังมีความสุขมากขึ้นอีกด้วย
ความหมาย และจุดประสงค์ของการกินเจ 2566
ก่อนอื่นมาทำความเข้าใจกับความหมาย และจุดประสงค์ของการกินเจ 2566 พอสังเขป
โดยถ้าสังเกตธงเจให้ดีจะเป็นอักษรสีแดงเขียนว่า “เจ” หรือ “ไจ” อยู่บนพื้นหลังสีเหลือง ซึ่งคำว่า “เจ” หรือ “ไจ”
นั้นมีความหมายว่าของไม่มีคาว ส่วนสีแดงเป็นตัวแทนของความเป็นสิริมงคล
และสีเหลืองคือสีของพุทธศาสนา ผู้ทรงศีล ทั้งยังเป็นการเตือนให้พุทธศาสนิกชนได้มาถือศีลกินเจ
ปฏิบัติตนอย่างเคร่งครัด ไม่เบียดเบียนชีวิตสัตว์ หรือต้องอยู่ในเทศกาล
ปฏิบัติตนในระยะ 9 วัน 9 คืน
ส่วนจุดประสงค์หลักในการกินเจนั้น แบ่งออกได้เป็น 3 กลุ่มใหญ่
ตามความเชื่อที่สืบทอดมาอย่างยาวนาน คือ
-
กินเจเพื่อสุขภาพ
โดยจะเน้นเป็นอาหารที่มีประโยชน์ ช่วยสร้างความสมดุลให้กับร่างกาย และเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยขับสารพิษจากมื้ออาหารก่อน
ๆ มาตลอดทั้งปีที่ผ่านมา
-
กินเจเพื่อเว้นกรรม
เพราะเชื่อว่าการเอาเลือด เนื้อ เอาชีวิตของคนอื่น ๆ เป็นการสร้างกรรม
แม้จะไม่ได้ฆ่าคนก็ตาม ดังนั้น เทศกาลกินเจจึงถือเป็นการทำบุญครั้งใหญ่
ช่วยลดการสร้างบาปกรรมจากการฆ่าสัตว์เปลี่ยนมากินผัก-ผลไม้ ซึ่งช่วยส่งผลดีให้กับตนเองด้วย
-
กินเจด้วยจิตใจที่เมตตา
เพราะคือการละเว้นจากการปรุงอาหารที่มีเนื้อสัตว์ต่าง ๆ เป็นส่วนประกอบ
ทั้งนี้ ก่อนจะเข้าสู่การกินเจ 2566 จริง ๆ แล้วก็ควรต้องมีการล้างท้องก่อนด้วย
เพื่อเป็นการเตรียมระบบต่าง ๆ ให้ภายในร่างกายให้เกิดความคุ้นชินมากที่สุด
ควรเตรียมตัวล่วงหน้าก่อนเทศกาลจริง ๆ 1 – 2 วัน โดยวันแรกลดการกินเนื้อสัตว์ใหญ่ให้น้อยลง
เปลี่ยนมากินปลา ไข่ หรือนมแทน พอวันที่ 2 ก็ให้เลือกเป็นผัก และผลไม้ ไม่มีสัตว์ใหญ่มาประกอบอาหารเลย
และวันต่อมาจึงเข้าสู่การกินเจได้
มีอาหารชนิดไหนบ้างที่ห้ามบริโภคในช่วงเทศกาลเจ 2565
บางคนที่พึ่งเข้าสู่การกินเจ โดยเริ่มต้นกินเจ 2566 เป็นครั้งแรก อาจยังไม่รู้ว่าต้องเลือกอาหารชนิดไหนบ้าง
รวมถึงคนที่กินทุกปีแต่ไม่ได้เคร่งครัดมากนัก สามารถเริ่มต้นใหม่ในปีดี ๆ ได้เลย ซึ่งอาหารที่ถูกห้าม
ได้แก่
1. เนื้อสัตว์
จริง ๆ เชื่อว่าอาหารชนิดนี้หลายคนรู้ดีกันอยู่แล้ว
นั่นคือการไม่เลือกบริโภคเนื้อสัตว์ใด ๆ เลย ในช่วง 9 วัน 9
คืนที่กำลังเริ่มต้นจากนี้ไป ทั้งเนื้อหมู เนื้อวัว เนื้อไก่ อาหารทะเล กุ้ง หมึก
หอย ปู ฯลฯ เจะเป็นสัตว์เล็ก สัตว์ใหญ่ใด ๆ แล้วห้ามกินทั้งหมด อย่างไรก็ตามหากเป็นหอยนางรมสามารถบริโภคได้
เพราะตามตำนานกล่าวว่าหอยนางรมได้อุทิศตนเป็นอาหารให้พระถังซำจั๋งครั้งที่เดินไปอัญเชิญพระไตรปิฏก
ณ ชมพูทวีป
2. อาหารที่มีรสจัด
อาหารต่อมาที่ห้ามกินเลยหากจะเป็นคนหนึ่งที่เข้าสู่การกินเจ 2566
ก็คืออาหารรสจัดมาก ๆ ไม่ว่าจะเค็มจัด หวานจัด หรือเผ็ดจัด เพราะส่วนใหญ่อาหารรสชาติจัดนั้นต้องมีการปรุงด้วยน้ำปลา
หรือซอสปรุงต่าง ๆ เมื่อร่างกายได้รับเข้าไปมาก ๆ ระบบย่อยอาหารก็ต้องทำงานหนัก
3. นม เนย ชีส และน้ำมันที่ได้จากสัตว์
ไม่ใช่แค่เนื้อสัตว์ หรืออาหารที่มีรสจัด แต่ก็ยังมีเมนูต่าง ๆ
ที่ห้ามมีส่วนผสมจากไขมันสัตว์ เนย นม โดยเฉพาะนมแพะ นมวัว หรือแม้แต่โยเกิร์ต
นมเปรี้ยว ไม่มีเครื่องดื่มประเภทไหนเจทั้งสิ้นตามที่กล่าวมา ซึ่งนมที่สามารถบริโภคได้จะเป็นนมถั่วเหลืองเท่านั้น
ก่อนซื้อพลิกฉลากดูก่อนเลย รวมถึงเนย ชีส ก็ไม่ใช่อาหารเจด้วย ส่วนยีสต์
หรือมาการีนเป็นอาหารเจบริโภคได้
4. ผักที่มีกลิ่นฉุนห้ามกินเด็ดขาด
บางคนเข้าใจว่าผัก-ผลไม้กินได้ ดังนั้น เห็นอะไรที่เป็นผัก-ผลไม้ก็กินหมด
แต่ยังมีผักต้องห้ามที่ไม่ควรกินเด็ดขาด โดยถือเป็นผักกลิ่นฉุนทั้งหลาย เช่น
กระเทียม กุยช่าย หัวหอม หลักเกียว และใบยาสูบ ทั้งนี้
ก็อาจมีบางคนเกิดความสงสัยเพิ่มเติมว่าผักชีเป็นอาหารเจไหม?? ตอบเลยว่าไม่ใช่ เพราะยังเป็นผักที่กลิ่นแรง แต่พริกไทย
กับทุเรียนเป็นอาหารที่กินได้ถึงมีกลิ่นฉุนแต่ก็ตาม โดยเฉพาะทุเรียนแม้กลิ่นแรงจัด
แต่ด้วยสีเหลืองที่มีในธงกลายเป็นสัญลักษณ์ช่วยธาตุดิน บำรุงม้ามได้อย่างมีประสิทธิภาพ
นอกจากนี้ เครื่องปรุงรสก็มีส่วนที่ไม่ใช่อาหารเจด้วย
แนะนำให้เลือกผลิตภัณฑ์ที่มีคำว่า “เจ” ติดอยู่บนบรรจุภัณฑ์จะดีมาก ๆ ส่วนเรื่องเครื่องปรุงที่ใช้ควรเป็นเกลือ
ซอสเห็ดหอม จะดีที่สุด หากเป็นน้ำผึ้งก็ไม่ได้เช่นกัน
เพราะถือเป็นการเบียดเบียนผึ้งนั่นเอง
เพียงเท่านี้ก็เชื่อว่าทุก ๆ คนที่สนใจอยากกินเจ 2566 จะเกิดความเข้าใจมากขึ้น
และพร้อมปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเข้าสู่การกินเจได้อย่างน่าประทับใจ
อย่าลืมว่าการกินเจเป็นการทำบุญที่ยิ่งใหญ่จึงควรกินอย่างเคร่งครัด
เพื่อส่งผลบุญได้ถึงสูงสุด
No comments:
Post a Comment