Monday, November 28, 2022

ปีชง 2566 รู้ไว้ แก้ไขได้ เสริมมงคลปราศจากอุปสรรคตลอดปี

 

ในทุก ๆ ปีต่างรู้กันว่าจะต้องมีปีชงของแต่ละนักษัตร ซึ่งในปีชง 2566 นี้ ตามตำราซินแสแล้วพบว่าได้ตรงกับ ปีระกา แน่นอนว่าตามความเชื่อหากศึกษาวิธีการเตรียมตัวรับมือให้พร้อมแต่เนิ่น ๆ และมองหาวิธีเสริมมงคลในชีวิต จะช่วยให้ปราศจากอุปสรรคตลอดปีได้อย่างไม่น่าเชื่อ และเพื่อความไม่ประมาทขอพาไปศึกษาด้วยตัวเองผ่านบทความนี้

ปีชงของปีนักษัตรคืออะไร?

ปีชงตามภาษาจีน หมายถึง การปะทะ ซึ่งถ้าปรับความหมายให้ชัดเจนก็อธิบายได้ว่าเป็นความเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่ มีทั้งดีและร้ายปะปนกัน โดยเทพแต่ละองค์ของนักษัตรต่าง ๆ ล้วนมีอิทธิพลต่อการใช้ชีวิตอย่างมาก เสมือนพระพรหมที่มีอิทธิพลต่อศาสนาฮินดู หรือคนไทยที่หมายถึงพรหรมลิขิต ทำให้ต้องมีการกราบไหว้เทพเจ้าอยู่เสมอ ยิ่งถ้าเป็นปีชงของใครก็ควรต้องไหว้แก้ไขเพื่อเป็นการขอพรเทพเจ้าช่วยดลบันดาลให้หมดทุกข์หมดโศกตลอดปี โชคดีตลอดไป ไร้อุปสรรค และอย่างที่บอกปีชง 2566 นี้ก็คือ ปีระกา

ปีชง 2566 ที่ชงทั้งตรง และชงร่วม

แต่ละปีจะมีปีนักษัตรที่ชง โดยแบ่งออกเป็นชงตรง คือชงแบบ 100% เท่ากับว่าเป็นปีที่จะได้รับผลกระทบมากที่สุด และชงร่วม ที่แบ่งออกเป็น 3 ระดับด้วย โดยมีรายละเอียดคือ

-          ปีผั่ว : คือ ปีที่ได้รับผลกระทบในเรื่องสุขภาพ

-          ปีคัก : คือ ปีที่เป็นปีนักษัตรเดียวกับปีนั้น ๆ หรือที่เรียกว่าชงตัวเอง

-     ปีเฮ้ง : คือ ปีที่ได้รับผลกระทบแบบเคราะห์ซ้ำกรรมซัด มีแต่ปัญหาอุปสรรคเข้ามาไม่หยุดหย่อน

ซึ่งปีชง 2566 นั้นคือ ปีระกา หรือคนที่เกิดในปี พ.ศ. 2476, พ.ศ.2488, พ.ศ.2500, พ.ศ.2512, พ.ศ.2524, พ.ศ.2536, พ.ศ.2548 และ พ.ศ.2560

ส่วนปีชงร่วมนั้น ได้แก่ ปีเถาะ, ปีชวด และปีมะเมีย ซึ่งก็คือคนที่เกิดในปี พ.ศ.2467, พ.ศ.2470, พ.ศ.2473, พ.ศ.2479, พ.ศ.2482, พ.ศ.2485, พ.ศ.2491, พ.ศ.2494, พ.ศ.2497, พ.ศ.2503, พ.ศ.2506, พ.ศ.2509, พ.ศ.2515, พ.ศ.2518, พ.ศ.2521, พ.ศ.2527, พ.ศ.2530, พ.ศ.2533, 2539, พ.ศ.2542, พ.ศ.2545, พ.ศ.2551, พ.ศ.2554, พ.ศ.2557, พ.ศ.2563 ที่ไม่ว่าจะเป็นหญิง ชาย หรือเพศที่ 3 ก็ตาม

วิธีแก้ปีชง 2566 แบบจีนที่นำไปปรับใช้ได้ผลจริง

1. การไหว้แก้ชงแบบครอบจักรวาล ไหว้ทั้งหมด

-     แนะนำให้คุณเลือกเดินสายไหว้พระ 9 วัด ปฏิบัติธรรม สวดมนต์ เจริญสติ ถือศีล ทั้งศีล 5 ศีล 8 หรือศีล 10 ตามแต่จะสะดวก

-     ไหว้เทพเจ้าไท้ส่วยเพื่อให้ท่านช่วยคุ้มครองชีวิต ทำให้สุขสบาย มีเงินมีทองใช้ โชคดีตลอดปี

-     ทำบุญกับพระป่วย หรืออาพาธ บริจาคเลือด โรงพยาบาลสงฆ์ บริจาคโลงศพ บริจาคอวัยวะ

-     ทำบุญไถ่ชีวิตสัตว์ต่าง ๆ ปล่อยปลา ปล่อยนก เพื่อเป็นการต่อชีวิตโลกให้สัตว์ทั้งหลายทั้งปวง

2. เครื่องไหว้นำมาใช้แก้ชง

 ปีชง 2566 นั้นคุณสามารถแก้ไขได้ด้วยการใช้เครื่องไหว้ที่เข้าข่าย โดยมีรายละเอียดที่ต้องรู้ดังต่อไปนี้

-     น้ำมันจุดตะเกียง 1 ขวด เพื่อเป็นการเพิ่มแสงสว่าง เพิ่มความสดใสให้ชีวิต เสมือนเป็นเปลวไฟที่ทำให้คุณได้รุ่งเรืองตลอดปี

-     ส้มมงคล 1 จาน ช่วยให้พบเจอแต่ความโชคดี เพราะส้มเป็นผลไม้มงคล
กระดาษเงิน กระดาษทอง ใช้ทั้งสิ้น 13 แผ่น ช่วยให้ตลอดปีพบเจอแต่ความร่ำรวย

-          เทียนแดง 1 เล่ม โดยสีแดงเปรียบเสมือนสีมงคล

-          ธูป 18 ดอก

-          กระดาษที่มีดวงชะตา ใส่ชื่อ – นามสกุล วัน/เดือน/ปีเกิด เพื่อเสริมดวงแบบเฉพาะคน

3. กราบไหว้บูชาเทพเจ้าไท้ส่วยเอี๊ยะ

เทพเจ้าไท้ส่วยเอี๊ยะ อย่างที่บอกไปคือเทพเจ้าที่ดูแลเรื่องปีชง โดยปีชง 2566 ก็ควรต้องมีการกราบไหว้ด้วยเช่นกัน เพื่อปัดเป่าอุปสรรคต่าง ๆ ให้หลุดพ้นตลอดปีตลอดไป

-          เริ่มต้นจากการเลือกซื้อชุดไหว้ต่าง ๆ เพื่อเป็นการสะเดาะเคราะห์ของแต่ละคน สามารถนำไปไหว้ตามวัดจีน หรือศาลเจ้าจีนได้เลย โดยให้มีกระดาษบรรจุดวงชะตาไปด้วย

-          กรอกข้อมูลต่าง ๆ ให้ครบถ้วน โดยที่เป็นข้อมูลของผู้ที่ต้องการแก้ชง คือ ชื่อ – นามสกุล วัน/เดือน/ปีเกิด เวลาเกิด และปีนักษัตร

-     ให้นำธูปไปปักไหว้กับกระถางธูปตามจุดที่ได้กำหนดไว้ โดยมีด้วยกัน 5 จุดสำคัญ ปักธูปไหว้จุดละ 3 ดอก รวมเป็น 15 ดอก

-     จากนั้นก็นำเอาชุดที่เตรียมไว้ไปไหว้เทพเจ้าไท้ส่วยเอี๊ยะได้เลย เป็นจุดที่ 6 จุดสุดท้าย แล้วตั้งจิตอธิษฐานให้ท่านคุ้มครอง แคล้วคลาดปลอดภัยตลอดปี 2566 อย่าได้มีอุปสรรคทั้งปวง

-     หลังจากนั้นนำเอาใบดวงชะตามาปัด ๆ ตัวเองให้ออกไปตั้งแต่หังจรดเท้า รวม 13 ครั้ง แต่ถ้าเป็นคนอื่นทำแทนไม่ต้องปัดตัว

-     สุดท้ายก็นำเอาใบดวงชะตาไปวางไว้ที่ฝาก เท่านี้การทำพิธีแก้ปีชง 2566 ก็เสร็จสมบูรณ์แล้วเรียบร้อย

อย่างไรก็ตาม ยังมีข้อห้ามของปีชง 2566 ที่ควรรู้กันเอาไว้ด้วย ก็คือการห้ามไปงานศพไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใดก็ตาม หากไปอย่างเลี่ยงไม่ได้ต้องมีใบทับทิมติดตัวไปเสมอ และเมื่อกลับมาบ้านก่อนที่จะเข้าบ้านต้องใช้น้ำสะอาดใส่กิ่งทับทิมที่พกไปล้างหน้า และพรมให้ทั่วทั้งตัว เพื่อเป็นการขจัดสิ่งชั่วร้าย อุปสรรคต่าง ๆ ให้ออกไปพ้นจากชีวิต ซึ่งหากใครไปโดยไม่มีใบทับทิมสิ่งที่จะตามมาคือการเจ็บป่วย ไม่สบาย มีปัญหาชีวิต หน้าที่การงาน หรือ ซวยตลอดปี และก็คงไม่มีใครอยากมาเจอเรื่องแบบนี้

เสริมดวงวันเกิดได้ง่าย ๆ ด้วยการเลือกใส่สีเสื้อมงคล 2566

 

ปัจจุบันปฏิเสธไม่ได้เลยว่าเรื่องของการเสริมดวงตามวันเกิดนั้นหลายคนเลือกที่จะทำกัน และหนึ่งในนั้นก็คือการเสริมดวงง่าย ๆ ด้วยการเลือกใส่สีเสื้อมงคล ซึ่งแต่ละปีก็จะมีการผลัดเปลี่ยนไปเรื่อย แล้วแบบนี้สีเสื้อมงคล 2566 ควรใส่สีเสื้ออะไรตามวันเกิด?? ลองมาเช็กข้อมูลไปพร้อมกันได้เลย

ทำไมต้องเสริมดวงด้วยสีเสื้อมงคล 2566 ตามวันเกิด??

การที่ได้เลือกเสริมดวงด้วยการใช้สีเสื้อมงคลนั้นก็เพื่อความสบายใจ ส่งเสริมให้มีแต่สิ่งดี ๆ เข้ามาในชีวิต สร้างความมั่นใจในการใช้ชีวิตมากขึ้น โดยแต่ละคนจะมีวันเกิดต่างกันไป ซึ่งแต่ละเรื่องที่อยากเสริมดวงก็มักต้องใช้สีที่ถูกโฉลกไม่ว่าจะเป็นด้านโชคลาภ การเงิน บารมี สุขภาพ ไปจนถึงสีกาลกิณีไม่เป็นมงคล สีต้องห้าม

เมื่อนำมาผสมกับเสื้อซึ่งเป็นสิ่งที่ต้องใส่กันอยู่แล้ว การมีสีให้เลือกหลากหลาย ช่วยให้ทุกคนสามารถเสริมดวงในด้านต่าง ๆ ง่ายมากขึ้น ผู้คนจึงนิยมที่จะเสริมดวงด้วยวิธีนี้กัน

เกิดวันไหนใส่สีเสื้อมงคล 2566 อะไรเสริมดวงด้านต่าง ๆ บ้าง??

1. คนที่เกิดวันจันทร์

สำหรับคนที่เกิดวันจันทร์อยากแนะนำให้เลือกสีเสื้อมงคล 2566 เสริมดวงต่าง ๆ คือ

-          เสริมดวงด้านโชคลาภ : เลือกใส่สีม่วง สีดำ หรือสีน้ำตาล

-          เสริมดวงด้านการเงิน : เลือกใส่สีส้ม สีทอง สีครีม หรือสีเหลือง

-          เสริมดวงด้านสุขภาพ : เลือกใส่สีชมพูอ่อน

-          เสริมดวงด้านบารมี : เลือกใส่สีเขียว สีเทา หรือสีขาว

-          สีกาลกิณีไม่เป็นมงคล : ห้ามใส่สีแดง

2. คนที่เกิดวันอังคาร

คนเกิดวันอังคารแนะนำให้เลือกเป็นเสื้อผ้าสีที่ช่วยเสริมดวงได้อย่างดีเยี่ยม คือ

-          เสริมดวงด้านโชคลาภ : เลือกใส่สีทอง น้ำตาล หรือส้ม

-          เสริมดวงด้านการเงิน : เลือกใส่สีเทา

-          เสริมดวงด้านสุขภาพ : เลือกใส่สีเขียว

-          เสริมดวงด้านบารมี : เลือกใส่สีน้ำตาล ม่วง ชมพู หรือดำ

-          สีกาลกิณีไม่เป็นมงคล : ห้ามใส่สีนวล สีขาว สีครีม หรือสีเหลือง

3. คนที่เกิดวันพุธ

3.1 วันพุธกลางวัน อยากแนะนำให้เลือกเป็นเสื้อผ้าแต่ละสีช่วยเสริมดวง คือ

-          เสริมดวงด้านโชคลาภ : เลือกใส่สีเทา

-          เสริมดวงด้านการเงิน : เลือกใส่สีน้ำเงิน ม่วง หรือฟ้า

-          เสริมดวงด้านสุขภาพ : เลือกใส่สีม่วง น้ำตาล หรือดำ

-          เสริมดวงด้านบารมี : เลือกใส่สีส้ม สีทอง สีเขียว หรือสีเหลือง

-          สีกาลกิณีไม่เป็นมงคล : ห้ามใส่สีชมพู

3.2 วันพุธกลางคืน อยากแนะนำให้เลือกเป็นเสื้อผ้าแต่ละสีช่วยเสริมดวง คือ

-          เสริมดวงด้านโชคลาภ : เลือกใส่สีครีม ขาว หรือเทาอ่อน

-          เสริมดวงด้านการเงิน : เลือกใส่สีชมพู

-          เสริมดวงด้านสุขภาพ : เลือกใส่สีน้ำเงิน ฟ้า

-          เสริมดวงด้านบารมี : เลือกใส่สีเทาเข้ม หรือแดง

-          สีกาลกิณีไม่เป็นมงคล : ห้ามใส่สีส้ม เหลืองเข้ม

4. คนที่เกิดวันพฤหัสบดี

สำหรับคนที่เกิดวันพฤหัสบดี อยากแนะนำให้เลือกสีเสื้อมงคล 2566 ช่วยเสริมดวงได้ง่าย ๆ คือ

-          เสริมดวงด้านโชคลาภ : เลือกใส่สีแดง

-          เสริมดวงด้านการเงิน : เลือกใส่สีขาว เทาอ่อน หรือเหลือง

-          เสริมดวงด้านสุขภาพ : เลือกใส่สีเทา

-          เสริมดวงด้านบารมี : เลือกใส่สีเหลือง ฟ้า ส้ม น้ำเงิน หรือเหลือง

-          สีกาลกิณีไม่เป็นมงคล : ห้ามใส่สีดำ และม่วง

5. คนที่เกิดวันศุกร์

คนเกิดวันศุกร์ขอแนะนำให้เลือกเป็นเสื้อผ้าช่วยเสริมดวงที่แตกต่างกัน ดังต่อไปนี้

-          เสริมดวงด้านโชคลาภ : เลือกใส่สีชมพู

-          เสริมดวงด้านการเงิน : เลือกใส่สีเขียว

-          เสริมดวงด้านสุขภาพ : เลือกใส่สีแดง

-          เสริมดวงด้านบารมี : เลือกใส่สีเหลือง ขาว น้ำเงิน หรือฟ้า

-          สีกาลกิณีไม่เป็นมงคล : ห้ามใส่สีเทา

6. คนที่เกิดวันเสาร์

คนเกิดวันเสาร์นั้น แนะนำให้เลือกเป็นเสื้อผ้าที่ถือเป็นสีเสื้อมงคล 2566 ช่วยเสริมดวงได้อย่างสวยงาม ได้แก่

-          เสริมดวงด้านโชคลาภ : เลือกใส่สีน้ำเงิน ฟรือฟ้า

-          เสริมดวงด้านการเงิน : เลือกใส่สีแดง

-          เสริมดวงด้านสุขภาพ : เลือกใส่สีเหลือง ม่วง น้ำตาล

-          เสริมดวงด้านบารมี : เลือกใส่สีน้ำตาล ม่วง เทา หรือดำ

-          สีกาลกิณีไม่เป็นมงคล : ห้ามใส่สีเขียว

7. คนที่เกิดวันอาทิตย์

สุดท้ายคนที่เกิดวันอาทิตย์ แนะนำเลือกเป็นเสื้อผ้าที่แต่ละสีช่วยเสริมดวงได้แตกต่างกันออกไป คือ

-          เสริมดวงด้านโชคลาภ : เลือกใส่สีเขียว

-          เสริมดวงด้านการเงิน : เลือกใส่สีม่วง ดำ หรือน้ำตาล

-          เสริมดวงด้านสุขภาพ : เลือกใส่สีเทา เหลือง หรือขาว

-          เสริมดวงด้านบารมี : เลือกใส่สีแดง ชมพู

-          สีกาลกิณีไม่เป็นมงคล : ห้ามใส่สีน้ำเงิน หรือฟ้า

เมื่อรู้อย่างนี้แล้วหากอยากเสริมดวงสีเสื้อมงคล 2566 ก็ลองดูได้เลย เชื่อว่าจะช่วยส่งเสริมดวงให้ดีได้หลาย ๆ ด้าน ใครเกิดวันไหนอยากเสริมดวงเรื่องอะไรก็หยิบสีนั้นมาใส่ตามสะดวก แต่นอกจากการเสริมดวงแล้ว ก็ต้องลงมือทำเองอย่างตั้งใจ มีเป้าหมาย และมีสติทุกครั้งด้วย หวังว่าจะสมหวังกันถ้วนหน้า

กินเจ 2566 เทศกาลทำบุญครั้งใหญ่ ที่ควรปฏิบัติอย่างเคร่งครัด

 

เพราะการกินเจถือเป็นการทำบุญครั้งยิ่งใหญ่ให้กับตนเอง ซึ่งในปี 2566 ก็ถือว่าเป็นอีกครั้งที่ควรให้ความสำคัญ และหากคุณเป็นคนหนึ่งที่สนใจกินเจ 2566 ครั้งแรก หรือที่ผ่านมาคิดว่ายังไม่เคร่งครัดพอ อย่ารอช้าที่จะมาร่วมศึกษาข้อมูลไปพร้อมกัน แล้วการกินเจในครั้งถัดไปนอกจากได้บุญกับตนเองแล้วชีวิตยังมีความสุขมากขึ้นอีกด้วย

ความหมาย และจุดประสงค์ของการกินเจ 2566

ก่อนอื่นมาทำความเข้าใจกับความหมาย และจุดประสงค์ของการกินเจ 2566 พอสังเขป โดยถ้าสังเกตธงเจให้ดีจะเป็นอักษรสีแดงเขียนว่า เจ หรือ ไจ อยู่บนพื้นหลังสีเหลือง ซึ่งคำว่า เจ หรือ ไจ นั้นมีความหมายว่าของไม่มีคาว ส่วนสีแดงเป็นตัวแทนของความเป็นสิริมงคล และสีเหลืองคือสีของพุทธศาสนา ผู้ทรงศีล ทั้งยังเป็นการเตือนให้พุทธศาสนิกชนได้มาถือศีลกินเจ ปฏิบัติตนอย่างเคร่งครัด ไม่เบียดเบียนชีวิตสัตว์ หรือต้องอยู่ในเทศกาล ปฏิบัติตนในระยะ 9 วัน 9 คืน

ส่วนจุดประสงค์หลักในการกินเจนั้น แบ่งออกได้เป็น 3 กลุ่มใหญ่ ตามความเชื่อที่สืบทอดมาอย่างยาวนาน คือ

-          กินเจเพื่อสุขภาพ โดยจะเน้นเป็นอาหารที่มีประโยชน์ ช่วยสร้างความสมดุลให้กับร่างกาย และเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยขับสารพิษจากมื้ออาหารก่อน ๆ มาตลอดทั้งปีที่ผ่านมา

-          กินเจเพื่อเว้นกรรม เพราะเชื่อว่าการเอาเลือด เนื้อ เอาชีวิตของคนอื่น ๆ เป็นการสร้างกรรม แม้จะไม่ได้ฆ่าคนก็ตาม ดังนั้น เทศกาลกินเจจึงถือเป็นการทำบุญครั้งใหญ่ ช่วยลดการสร้างบาปกรรมจากการฆ่าสัตว์เปลี่ยนมากินผัก-ผลไม้ ซึ่งช่วยส่งผลดีให้กับตนเองด้วย

-     กินเจด้วยจิตใจที่เมตตา เพราะคือการละเว้นจากการปรุงอาหารที่มีเนื้อสัตว์ต่าง ๆ เป็นส่วนประกอบ

ทั้งนี้ ก่อนจะเข้าสู่การกินเจ 2566 จริง ๆ แล้วก็ควรต้องมีการล้างท้องก่อนด้วย เพื่อเป็นการเตรียมระบบต่าง ๆ ให้ภายในร่างกายให้เกิดความคุ้นชินมากที่สุด ควรเตรียมตัวล่วงหน้าก่อนเทศกาลจริง ๆ 1 – 2 วัน โดยวันแรกลดการกินเนื้อสัตว์ใหญ่ให้น้อยลง เปลี่ยนมากินปลา ไข่ หรือนมแทน พอวันที่ 2 ก็ให้เลือกเป็นผัก และผลไม้ ไม่มีสัตว์ใหญ่มาประกอบอาหารเลย และวันต่อมาจึงเข้าสู่การกินเจได้

มีอาหารชนิดไหนบ้างที่ห้ามบริโภคในช่วงเทศกาลเจ 2565  

บางคนที่พึ่งเข้าสู่การกินเจ โดยเริ่มต้นกินเจ 2566 เป็นครั้งแรก อาจยังไม่รู้ว่าต้องเลือกอาหารชนิดไหนบ้าง รวมถึงคนที่กินทุกปีแต่ไม่ได้เคร่งครัดมากนัก สามารถเริ่มต้นใหม่ในปีดี ๆ ได้เลย ซึ่งอาหารที่ถูกห้าม ได้แก่

1. เนื้อสัตว์

จริง ๆ เชื่อว่าอาหารชนิดนี้หลายคนรู้ดีกันอยู่แล้ว นั่นคือการไม่เลือกบริโภคเนื้อสัตว์ใด ๆ เลย ในช่วง 9 วัน 9 คืนที่กำลังเริ่มต้นจากนี้ไป ทั้งเนื้อหมู เนื้อวัว เนื้อไก่ อาหารทะเล กุ้ง หมึก หอย ปู ฯลฯ เจะเป็นสัตว์เล็ก สัตว์ใหญ่ใด ๆ แล้วห้ามกินทั้งหมด อย่างไรก็ตามหากเป็นหอยนางรมสามารถบริโภคได้ เพราะตามตำนานกล่าวว่าหอยนางรมได้อุทิศตนเป็นอาหารให้พระถังซำจั๋งครั้งที่เดินไปอัญเชิญพระไตรปิฏก ณ ชมพูทวีป

2. อาหารที่มีรสจัด

อาหารต่อมาที่ห้ามกินเลยหากจะเป็นคนหนึ่งที่เข้าสู่การกินเจ 2566 ก็คืออาหารรสจัดมาก ๆ ไม่ว่าจะเค็มจัด หวานจัด หรือเผ็ดจัด เพราะส่วนใหญ่อาหารรสชาติจัดนั้นต้องมีการปรุงด้วยน้ำปลา หรือซอสปรุงต่าง ๆ เมื่อร่างกายได้รับเข้าไปมาก ๆ ระบบย่อยอาหารก็ต้องทำงานหนัก

3. นม เนย ชีส และน้ำมันที่ได้จากสัตว์

ไม่ใช่แค่เนื้อสัตว์ หรืออาหารที่มีรสจัด แต่ก็ยังมีเมนูต่าง ๆ ที่ห้ามมีส่วนผสมจากไขมันสัตว์ เนย นม โดยเฉพาะนมแพะ นมวัว หรือแม้แต่โยเกิร์ต นมเปรี้ยว ไม่มีเครื่องดื่มประเภทไหนเจทั้งสิ้นตามที่กล่าวมา ซึ่งนมที่สามารถบริโภคได้จะเป็นนมถั่วเหลืองเท่านั้น ก่อนซื้อพลิกฉลากดูก่อนเลย รวมถึงเนย ชีส ก็ไม่ใช่อาหารเจด้วย ส่วนยีสต์ หรือมาการีนเป็นอาหารเจบริโภคได้

4. ผักที่มีกลิ่นฉุนห้ามกินเด็ดขาด

บางคนเข้าใจว่าผัก-ผลไม้กินได้ ดังนั้น เห็นอะไรที่เป็นผัก-ผลไม้ก็กินหมด แต่ยังมีผักต้องห้ามที่ไม่ควรกินเด็ดขาด โดยถือเป็นผักกลิ่นฉุนทั้งหลาย เช่น กระเทียม กุยช่าย หัวหอม หลักเกียว และใบยาสูบ ทั้งนี้ ก็อาจมีบางคนเกิดความสงสัยเพิ่มเติมว่าผักชีเป็นอาหารเจไหม?? ตอบเลยว่าไม่ใช่ เพราะยังเป็นผักที่กลิ่นแรง แต่พริกไทย กับทุเรียนเป็นอาหารที่กินได้ถึงมีกลิ่นฉุนแต่ก็ตาม โดยเฉพาะทุเรียนแม้กลิ่นแรงจัด แต่ด้วยสีเหลืองที่มีในธงกลายเป็นสัญลักษณ์ช่วยธาตุดิน บำรุงม้ามได้อย่างมีประสิทธิภาพ

นอกจากนี้ เครื่องปรุงรสก็มีส่วนที่ไม่ใช่อาหารเจด้วย แนะนำให้เลือกผลิตภัณฑ์ที่มีคำว่า เจ ติดอยู่บนบรรจุภัณฑ์จะดีมาก ๆ ส่วนเรื่องเครื่องปรุงที่ใช้ควรเป็นเกลือ ซอสเห็ดหอม จะดีที่สุด หากเป็นน้ำผึ้งก็ไม่ได้เช่นกัน เพราะถือเป็นการเบียดเบียนผึ้งนั่นเอง

เพียงเท่านี้ก็เชื่อว่าทุก ๆ คนที่สนใจอยากกินเจ 2566 จะเกิดความเข้าใจมากขึ้น และพร้อมปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเข้าสู่การกินเจได้อย่างน่าประทับใจ อย่าลืมว่าการกินเจเป็นการทำบุญที่ยิ่งใหญ่จึงควรกินอย่างเคร่งครัด เพื่อส่งผลบุญได้ถึงสูงสุด