อาการคันรอบรูทวารหนัก

อาการคันรอบรูทวารหนัก

คำแนะนำ

Hemorrhoid รักษายังงัยก็หายยาก หากใช้แค่ยาฆ่าเชื้อรา เพราะใช้ผิดวัตถุประสงค์

จะขอแนะนำยาขนาดเอก คุณภาพสูง จากอเมริกาครับ อันนี้ได้รับการยืนยันทางการแพทย์แล้ว สามารถรักษา อาการคันรอบรูทวารหนักได้ผล 100%

ครีมหลอดทารอบรูทวารและทาแหย่เข้าไปในรูทวารหนักประมาณ 2 นิ้ว ใช้ติดต่อกัน 1 - 2 เดือนครับ
อาการคันรอบรูทวารหนักจะหายเป็นปกติ

หลักจากหายขาดแล้วให้งดดื่มเครื่องดื่มพวกสุรา ของหมักดอง เบียร์ จะป้องกันการกลับมาเป็นซ้ำอีกครับ

หากท่านเป็นผู้ที่เหงื่อออกง่าย ให้ทานน้ำอุ่นทุกคืนเป็นประจำ
สินค้าตัวนี้ หาซื้อไม่ได้ตามห้างนะครับ ต้องสั่งซื้อโดยตรงที่เว็บนี้เท่านั้น

หากท่านคิดจะพยายามใช้พวกครีมโทนาฟ หรือ ครีมกันเชื้อรา จะยิ่งเป็นอันตรายเข้าไปอีก

คันรูทวารหนักเป็นอะไรได้บ้าง

คำตอบสำหรับคำถามนะครับ ผมก็ไม่รู้ เท่าที่หาได้ มีเพียงเท่านี้ครับ ไม่ต้องกังวลไม่น่าใช่โรคร้ายแรงอะไร หากคุณไม่ได้นำสิ่งนั้นไปใช้ในทางที่ผิดนะครับ

Mon, 01/07/2545 - 00:00 — somsak

ข้อมูลของสื่อ

File Name: 

279-014-6

เล่ม: 

279

เดือน-ปี: 

07/2002

คันรูทวารหนักเป็นอะไรได้บ้าง
 สุจริต : ผู้ถามเนื่อง จากมีอาการคันที่รูทวารเป็นเวลานานพอสมควร และเคยมา ถามคุณหมอก็ได้คำตอบว่า อาจจะเป็นพยาธิเส้นด้าย จึงได้ซื้อยาถ่ายพยาธิมากิน ก็ถ่ายตามปกติ แต่อาการคันที่รูทวารก็ยังไม่หาย มีอาการ คันเป็นพักๆ ไม่ได้คันตลอดเวลา
อยากทราบว่า อาการคันที่รูทวาร หากไม่ใช่เพราะพยาธิเส้นด้าย น่าจะเป็นอะไรได้บ้าง หรือจะเป็นเพราะสาเหตุอื่นได้หรือไม่

นพ.มาวิน วงศ์สายสุวรรณ/ เว็บไซต์ thaiclinic.com : ผู้ตอบสาเหตุการคันรอบทวารหนักได้แก่
- โรคผิวหนัง เช่น โรคภูมิแพ้ (Atopic dermatitis) หรือโรคเรื้อน กวาง (Psoriasis)
- สารบางอย่าง เช่น หัวเชื้อ น้ำหอมบางอย่าง หรือสบู่บางชนิด
- หรือ แม้กระทั่งอาหารที่  กินเข้าไป ได้แก่ พวกเครื่องดื่มผสม แอลกอฮอล์ โดยเฉพาะเบียร์ น้ำ-อัดลม ชา  กาแฟ นม อาหารเผ็ดๆอาหารรสเปรี้ยว ยา เช่น colchicine (ใช้รักษาโรคเกาต์) เตตราไซคลีน วิตามินซี ผลไม้ที่มีรสเปรี้ยว
- เชื้อจุลชีพบางอย่าง เช่น เชื้อรา หรือแบคทีเรีย
- ปรสิต เช่น พยาธิ หิด พยาธิ เช่นพยาธิเข็มหมุด พยาธิเส้นด้าย
- โรค ประจำตัวได้แก่ โรคเบาหวาน โรคตับ หรือโรคเกี่ยวข้อง กับทวารหนัก เช่น มีติ่งเนื้อยื่นจากทวาร ฝีคัณฑสูตร หรือแม้กระทั่งเนื้องอกบางอย่าง
- การ รักษาความสะอาดมาก เกินไป บางครั้งการทำความสะอาด หรือการชำระล้างด้วยสบู่ หรือถูบ่อย ก็ทำให้ผิวหนังบริเวณนั้นแห้งมากไปและคันได้
- การมีเหงื่อออกมากและอับชื้นตลอดเวลาเช่นบุคคลบางอาชีพ เช่น จ๊อกกี้ม้า
- หรือคนอ้วนมาก 
- ภาวะทางจิต 
การปฏิบัติตน
- สังเกตตัวท่านว่ามีปัจจัยดังกล่าวหรือไม่ และพยายามหลีกเลี่ยง
- พยายามอย่าเกา ใส่เสื้อผ้า หลวมสบายๆ กางเกงในควรเป็นผ้า cotton จะดีที่สุดครับ
- หลีกเลี่ยงการอาบน้ำร้อน หรือการล้างบริเวณนั้นบ่อยเกินไป อาจใช้ครีมที่ผสมมอยส์เจอร์ไรเซอร์ แทนการใช้สบู่ 
- ไม่ควรให้บริเวณนั้นเปียกชื้นตลอดเวลา อาจใช้แป้งเด็กทาก็ได้
- ถ่ายอุจจาระสม่ำเสมอ 
- หากใช้กระดาษชำระไม่ควร ถูแรงเกิน อาจทำให้ผิวหนังถลอกเป็นแผลได้
- ไม่ควรใช้แป้งหอม หรือน้ำหอมบริเวณทวาร
- หาสาเหตุอื่นๆ แล้วทำการ รักษาเช่น พยาธิ เบาหวาน หรือ ริดสีดวง หรืออื่นๆ 
ถ้ายังไม่ดีขึ้น ควรพบแพทย์เพื่อหาสาเหตุต่อไปครับ

http://thaiclinic.com/question_anus_itching.html
http://www.doctor.or.th/node/2638





สินค้าเพิ่มเติม เข้ามาดุสินค้าเกี่ยวกับรายการที่คุณค้นหาได้ที่นี่ SNAP SHARE